วันพุธที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2554

นอนป่วยน้ำท่วมไปไหนไม่ได้ เครียดดับคาบ้าน



สถานการณ์น้ำท่วม ใน จ.ปราจีนบุรี ยังไม่คลี่คลาย ล่าสุดสังเวยอีก 2 ศพ นอนป่วยน้ำท่วมออกไปไหนไม่ได้เครียดดับคาบ้าน...

สถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี ที่บริเวณชุมชนตลาดเก่ากบินทร์ พบว่าปริมาณน้ำยังคงสูงขึ้น เนื่องจากมีน้ำจากแควพระปรง ทางด้านจังหวัดสระแก้ว ได้ไหลลงมาสมทบกับน้ำในเขตพื้นที่อำเภอนาดี แม้ว่าในช่วงสองวันนี้ จะไม่มีฝนตกลงมาในพื้นที่ก็ตาม

โดยชาวบ้านที่อาศัยในเขตพื้นที่น้ำท่วม ได้ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตจากปกติในการเดินทางมาใช้เรือพายในการเดินทางเข้าออกจากบ้านพัก เพื่อเดินทางไปทำธุระนอกบ้าน ในพื้นที่อำเภอประจันตคาม จังหวัดปราจีนบุรี มีอ่างเก็บน้ำคลองฟันปลา หมู่ที่ 16 ตำบลโพธิ์งาม แตกพังทลาย วันที่ 17 สิงหาคม 2554 เนื่องจากปริมาณน้ำป่าจากเขาใหญ่ไหลลงสู่พื้นที่ที่จำนวนมาก ซึ่งในขณะนี้เจ้าหน้าที่ทหาร จาก พล.ร.2 รอ. ได้นำกำลังพลทำเข้าทำการซ่อมแซมวางกระสอบทราบ เพื่อป้องกันสะพานพังเสียหาย จากปริมาณน้ำในพื้นที่อำเภอกบินทร์บุรี และอำเภอประจันตคาม ได้ไหลลงสู่แม่น้ำปราจีนบุรี ในเขตพื้นที่อำเภอเมือง ส่งผลให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำสูงขึ้นจนเอ่อล้นตลิ่ง ไหลท่วมถนนด้านหน้าโรงเรียนปราจีนกัลยาณี รวมทั้งร้านอาหารที่ปลูกอยู่สองฝั่งแม่น้ำต้องถูกน้ำท่วมขัง จนต้องปิดร้านค้า

โดยเฉพาะวัดแก้วพิจิตรที่ ตั้งอยู่ทางฝั่งขวาของแม่น้ำบางปราจีนบุรี ในเขตเทศบาลเมืองปราจีนบุรีห่างจากตัวเมืองไปทางทิศตะวันออก ประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นวัดเก่าแก่สร้างเมื่อปี พ.ศ. 242 ซึ่งมีสถาปัตยกรรมภายนอกและการตกแต่งภายในอาคารผสมผสานระหว่างศิลปะไทย จีน ยุโรป และ เขมร อาคาร ที่สำคัญภายในวัด ได้แก่ พระอุโบสถ ที่ฝาผนังด้านนอกมีภาพปูนปั้นตัวละครในเรื่องรามเกียรติ์ มีเสาแบบกรีก ด้านนอกหัวเสาเป็นแบบโครินเธียล น้ำในแม่น้ำปราจีนกำลังไหลเข้าท่วมพื้นที่บริเวณวัดแล้ว



ส่วนทางด้านอำเภอกบินทร์บุรี เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 21 สิงหาคม 54 ร.ต.ท.วิฑูรย์ วงค์ใหญ่ ร้อยเวรสอบสวน สภ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี รับแจ้งเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสัจจพุทธธรรมกบินทร์บุรี ว่ามีผู้เสียชีวิตสาเหตุจากจมน้ำ ที่บริเวณสวนยูคาลิปตัส บ้านวังห้าง หมู่ที่ 2 ตำบลนาแขม อำเภอกบินทร์บุรี หลังจากรับแจ้งได้เดินทางไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พร้อมแพทย์ชันสูตรโรงพยาบาลกบินทร์บุรี ในที่เกิดเหตุต้องเดินลุยน้ำเข้าไปยังที่เกิดเหตุประมาณ 100 เมตร

ตรวจสอบพบศพนายสมจิตร สามเรือง อายุ 53 ปี บ้านเลข 27 หมู่ 2 ตำบลนาแขม อำเภอกบินทร์บุรี สภาพศพจมอยู่ใต้น้ำ พร้อมกับเรืออยู่ในป่ายูคาลิปตัส ที่มีน้ำลึกเกือบ 2 เมตร เจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันงมศพขึ้นมาจากน้ำเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและแพทย์ชันสูตร พบว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 4 ชั่วโมง

ส่วนสาเหตุ น่าจะมาจากถูกน้ำพัดตกจากเรือขณะที่ออกเรือหาปลา และถูกกระแสน้ำพัดเรือจมลง ส่วนตัวเองนั้นว่ายน้ำไม่เป็นจึงจมน้ำเสียชีวิตดังกล่าว และ หมู่ที่ 3 ตำบลนาแขม ซึ่งเป็นพื้นที่มีบ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วมสูงเกือบ 2 เมตร ได้รับแจ้งว่ามีผู้เสียชีวิตอีกราย คือนายทองดำ ขันดงลิง อายุ 63 ปี ไม่ทราบบ้านเลขที่ ที่ป่วยนอนอยู่กับบ้านที่ถูกน้ำท่วมไม่สามารถออกไปไหนมาไหนได้ จนเกิดอาการเครียดและช็อคจนเสียชีวิตไปอีกราย

วันเสาร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2554

นครพนม-สุนัขตายเพิ่ม




สุนัขที่รอดชีวิตจากแก๊งค้าสุนัขตายเพิ่มอีกหลายสิบตัว หัวหน้าด่านกักกันสัตว์นครพนม เผยว่ายังต้องการอาหารสุนัขเพิ่มหลังจากสุนัขฟื้นตัวในอีกสองวันนี้

เจ้าหน้าที่จากสำนักงานสุขศาสตร์สัตว์ และสุขอนามัยที่ 4 จังหวัดขอนแก่น เดินทางมาช่วยรักษาและฟื้นฟูสุขภาพสุนัขที่ถูกแก๊งค้าสุนัขจับใส่กรงรวมไว้อย่างแออัด ร่วมกับสัตว์แพทย์จากสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดนครพนม จำนวนกว่า 10 คน ช่วยกันปฐมพยาบาลสุนัขที่ได้รับบาดเจ็บตามสภาพที่พบเห็น โดยหากมีแผลถลอกก็จะฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อโรค เบื้องต้นจะต้องปล่อยให้สุนัขได้ฟื้นตัวสัก 2-3 วัน เสียก่อน หลังจากนั้นจึงจะฉีดวัคซีน และทำหมันได้

โดยตลอดคืนที่ผ่านมาสุนัขที่บอบช้ำ และส่วนใหญ่บาดเจ็บจากการแก๊งค้าสุนัขจับอัดใส่กรงได้ล้มตายเพิ่มขึ้นนับสิบตัว ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ขุดหลุมขนาดใหญ่เตรียมไว้ทำการกลบฝัง ขณะชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างทยอยนำอาหารมาให้สุนัขคนละเล็กละน้อยตลอดทั้งวัน ขณะที่บางคนมาตามหาสุนัขที่หายออกจากบ้านโดยมีความหวังว่าจะได้พบที่คอกสุนัขแห่งนี้

นายชูศักดิ์ พงษ์พานิช หัวหน้าด่านกักกันสัตว์นครพนม เปิดเผยว่าขณะนี้อาหารสุนัขยังขาดแคลนอีกเป็นจำนวนมาก เนื่องจากช่วงนี้เป็นระยะแรก ๆ ที่สุนัขยังไม่สามารถกินอาหารได้มากนักเนื่องจากยังบาดเจ็บและป่วยไข้ ซึ่งหลังจากนี้ 3-4วัน เมื่อสุนัขฟื้นตัวเข้าสู่สภาวะปกติแล้วจะกินอาหารเพิ่มขึ้นมากกว่านี้หลายเท่า เกรงว่าอาหารที่เตรียมไว้จะไม่เพียงพอซึ่งได้ประสานไปที่ต้นสังกัดเพื่อขอรับการสนับสนุนเพิ่มเติมแล้ว ขณะเดียวกันก็เปิดรับบริจาคจากชาวบ้านทั่วไปด้วย เกรงว่าเวลาผ่านไปผู้คนจะลืม เพราะสุนัขเหล่านี้จะต้องอยู่ที่นี่ไปอีกนานจนกว่าศาลจะสั่งคดีจนถึงที่สุด

วันจันทร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2554

'แอฟริกา'วิกฤติ!ร่วมลดโลกร้อน

...ก่อนสัตว์ป่าสูญ ทวีปแอฟริกา เป็นทวีป ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากทวีปเอเชีย มีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นทะเลทราย อากาศจึงแห้งแล้ง โดยทวีปนี้แม้จะมีทรัพยากรธรรมชาติและสัตว์ป่ามากมาย แต่ก็ยังคงเป็นทวีปที่ยากจนและด้อยพัฒนามากที่สุด รวมถึงการได้รับผลกระทบจากภาวะโลกร้อนจนถึงขั้นวิกฤติ!?! ภาวะโลกร้อนได้ส่งผลให้พื้นที่ต่างๆ ของแอฟริกาที่แห้งแล้งอยู่แล้วมีความแห้งแล้งเพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกันพื้นที่ที่ชุ่มน้ำอยู่แล้ว ก็กลับมีน้ำเพิ่มมากขึ้น จนส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของสรรพสัตว์น้อยใหญ่ เกิดการเปลี่ยนแปลงของวงจรชีวิตบ้างสูญพันธุ์บ้างมีอัตราการเกิดน้อยลง วิศิษฏ์ วิชาศิลป์ รองผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ อธิบายว่า ในรอบ 100 ปี ที่ผ่านมาทวีปแอฟริกาได้รับผลกระทบจากโลกร้อนทำให้ มีอุณหภูมิสูงขึ้น 0.5 องศาเซลเซียส โดยในหลายพื้น ที่มีอุณหภูมิสูงกว่าอุณหภูมิของโลกที่เพิ่มขึ้นถึงสองเท่า และในบางพื้นที่มีอุณหภูมิเพิ่มขึ้นถึง
3.5 องศาเซลเซียส ภายในระยะเวลา 20 ปี เท่านั้น เช่น พื้นที่บางส่วนของประเทศเคนยาที่มีพื้นที่แห้งแล้งขาดแคลนน้ำในการเพาะปลูกและการบริโภค ปัจจุบันแอฟริกากำลังเผชิญกับความแห้งแล้งที่เลวร้ายแทบทั้งทวีป โดยพื้นที่กึ่งแห้งแล้งทางตอนเหนือ, ตะวันตก, ตะวันออกและหลายส่วนทางใต้ของแอฟริกากำลังเผชิญ ความแห้งแล้งมากยิ่งขึ้น ขณะที่บริเวณจุดศูนย์สูตรและบางส่วนทางตอนใต้กลับมีน้ำมากขึ้น ประชากรในบริเวณซับซาฮาราอยู่ในภาวะขาดแคลนอาหาร ฯลฯ ความสำคัญของทวีปแอฟริกาเดิมทีเคยเป็นทวีปที่มีความหลากหลายทางชีวภาพสูงที่สุดกว่าพื้นที่อื่น ๆ มีจำนวนสัตว์ป่ามากมายหลายชนิดเนื่องจากที่อยู่อาศัยยัง ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงมาก แต่ปัจจุบันปริมาณการเกิดของสัตว์ลดน้อยลงเนื่องจากภาวะโลกร้อน และเริ่มมีการรุก ล้ำพื้นที่ป่า เพื่อทำการเกษตร โดยล่าสุดแม้จะมีการค้นพบสัตว์ป่าใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น ได้แก่ ลิงไฮแลนด์ แมงกะบี้ (High- land Mangabey) แต่ในขณะเดียวกันก็มีสัตว์ป่าล้มตายเป็นจำนวนมากเช่นกัน โดยสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์และเหลือน้อยจากผลกระทบ ด้านสิ่งแวดล้อมได้แก่ สัตว์ประเภท แอนทิโลปซึ่งเป็นสัตว์ที่มีลักษณะคล้ายกวางและมีเขาสวยงาม ส่วนสัตว์ประเภทสะเทินน้ำสะเทินบก เช่น กบ เขียด ได้รับผลกระทบรุนแรงมากที่สุด โดยลดจำนวนลงอย่างรวดเร็ว ทำให้วงจรชีวิตของสัตว์เปลี่ยนแปลงไป เช่น สัตว์จำพวกแมลงเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากไม่มีกบ เขียด คอยจับกินเป็นอาหาร จึงไปรบ กวนแปลงเกษตรที่ปลูกพืชผักของมนุษย์ นอกจากนี้ยังมีนกอินทรีย์ นกกระจอก เทศที่กินปลาเป็นอาหารต้องขาดแคลนทั้งแหล่งน้ำ และอาหารทำให้ล้มตายไปเป็นจำนวนมาก เช่นกัน ในอนาคตอีกหลายสิบปีข้างหน้าผลกระทบจากโลกร้อนจะยังคงทวีความรุนแรงขึ้นหากยังไม่มีการอนุรักษ์ หรือรณรงค์จะทำให้สัตว์ใหญ่ทั้งหลายไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ โดยนอกจากสัตว์แล้วตัวมนุษย์เองเป็นด่านแรก ที่จะต้องได้รับผลกระทบต่อชีวิต เนื่องจากภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงไปอุณหภูมิสูงขึ้นสภาวะแห้งแล้งเลวร้ายลง ทุกทวีป มนุษย์จะถูกคุกคามด้านอาหารจนเข้าสู่ภาวะขาดแคลนอาหาร หากเรายังนิ่งนอนใจไม่ช่วยกันฟื้นฟูดูแลและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมมาใช้ชีวิตเพื่อลดปัญหาอุณหภูมิโลกเปลี่ยนแปลงให้มีภาวะสมดุลมากขึ้น ในอนาคตไม่ใช่แค่ทวีปแอฟริกาเท่านั้นที่จะได้รับผลกระทบอันเลวร้ายนี้แต่มนุษย์ทั่วโลกอาจได้รับผลตอบแทนจากการกระทำอย่างทั่วถึงทุกคน.
เนรมิตห้างสู่ดินแดนแอฟริกา ดิเอ็มโพเรียมช้อปปิ้งคอมเพล็กซ์ ร่วมกับกระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงพลังงาน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กรุงเทพ มหานครและกลุ่มธุรกิจ Green Alliance Network จัดงานอีเวนต์ด้านสิ่งแวดล้อมปีที่ 3 ภายใต้ชื่อ “Emporium Flora & Fauna Exotica : King of The Jungle อลังการเจ้าป่าซาฟารี” เนรมิตห้าง ดิ เอ็มโพเรียมเป็นดินแดนแอฟริกา สรวงสวรรค์แห่งสัตว์ป่านานาพันธุ์ สัมผัสพันธุ์ไม้หายาก พร้อมร่วมสร้างสำนึกรักษ์สิ่งแวดล้อมและช่วยกันป้องกันรักษาไว้ ศุภลักษณ์ อัมพุช รองประธานกรรมการบริหารอาวุโส บริษัทเดอะมอลล์ กรุ๊ปจำกัด กล่าวถึงการจัดงาน “Emporium Flora & Fauna Exotica : King of The Jungle อลังการเจ้าป่าซาฟารี” ว่า ถือเป็นกิจกรรมที่จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 แล้วโดยบริษัทเดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด ได้จัดขึ้นเพื่อร่วมกันปลูกจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมให้คนไทย โดยงานนี้จัดขึ้นภายใต้คอนเซปต์ King of The Jungle อลังการเจ้าป่าซาฟารี เนื่องจากได้เล็งเห็นความสำคัญของทวีปแอฟริกาที่มีปริมาณสัตว์ป่ามากที่สุดในโลก แต่กำลังได้รับผลกระทบจากสภาวะโลกร้อนจนปริมาณสัตว์ลดน้อยลงอย่างชัดเจน ภายในงานได้จัดแสดงสายพันธุ์สัตว์และพืชพันธุ์หายากและใกล้สูญพันธุ์ในบรรยากาศของป่าซาฟารี เพื่อสร้างกระแสการอนุรักษ์ธรรมชาติอย่างยั่งยืน แบ่งเป็นโซนต่าง ๆ 8 โซน ได้แก่ โซนอลังการ เจ้าป่าซาฟารี โซนอัศจรรย์ดอกโพรเทีย โซนเปิดโลกทัศน์แห่งการเรียนรู้เพื่อประหยัด พลังงาน โซนเจิดจรัสความงามแห่งธรรม ชาติ โซนมหัศจรรย์เมียร์แคทโซนตระการตาบ้านทาร์ซานและเหล่าวานร โซนรังสรรค์สวรรค์จินตนาการและโซนเจิดจรัสสวรรค์วิหค ร่วมสัมผัสความมหัศจรรย์และความงดงามของดินแดนแอฟริกาได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 18 ตุลาคมศกนี้ที่ ดิ เอ็มโพเรียม ช้อปปิ้ง คอมเพล็กซ์.