วันศุกร์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ผู้ว่าฯพิษณุโลกลงพื้นที่ บุกจับกุมขบวนการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า


วันที่ 01 กรกฎาคม 2553 ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกลงพื้นที่ ต.หนองกะท้าว อ.นครไทย หลังได้รับรายงานจากชุดเฉพาะกิจป้องกันและปราบปรามการบุกรุกทำลายป่าของอำเภอนครไทยและอำเภอชาติตระการ บุกจับกุมขบวนการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าได้พร้อมของกลางเป็นไม้มะค่าโมง อายุกว่า 100 ปี

เช้าวันนี้ ( 1 ก.ค. 53 ) นายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ลงพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเขากระยาง ม.26 บ้านโป่งดินดำ ต.หนองกะท้าว อ.นครไทย จ.พิษณุโลกหลังได้รับรายงานจากชุดเฉพาะกิจป้องกันและปราบปรามการบุกรุกทำลายป่าของอำเภอนครไทยและอำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก ว่าได้นำเจ้าหน้าที่บุกเข้าจับกุมขบวนการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าได้พร้อมของกลางเป็นไม้มะค่าโมง อายุ 100 ปี ที่ถูกตัดทอนเป็นท่อน ๆ ความยาวท่อนละประมาณ 3 เมตร จำนวน 4 ท่อน เส้นผ่าศูนย์กลาง 0.5-1 เมตร พร้อมผู้ต้องหาจำนวน 4 คน

ในที่เกิดเหตุพบ ล่องลอยการโค่นต้นมะค่าโมงอยู่บริเวณเชิงเขา อยู่ห่างจากกองไม้ประมาณ 30 เมตร เป็นตอไม้มะค่าโมง เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2 เมตร คาดว่าอายุไม่ต่ำกว่า 100 ปี และพบรถยนต์ของกลาง 2 คัน เป็นรถชักลากไม้ยี่ห้ออีซูซุ สีส้ม ทะเบียน 80-2950 พิษณุโลก และรถยนต์ชักลากไม้ อีซูซุ สีเทา ไม่ติดแผ่นป้ายทะเทียน นอกจากนี้ ยังพบรถตราโล่ ยี่ห้ออีซูซุ ทะเบียน ชผ 4112 ของสภ.นครไทย จอดอยู่ในที่เกิดเหตุด้วย พบเจ้าหน้าที่ตำรวจสองนาย คือพ.ต.ท.วิชาญ ( ภพณครินทร์ ชื่อใหม่ ) ปานทอง รองผกก( ปป.).สภ.นครไทย ภ.จว.พิษณุโลก ที่มาพร้อมกับดต.พร ก๊กพงษ์ ตำรวจสภ.นครไทย บริเวณกระบะรถตราโล่พบเลื่อยยนต์ยี่ห้อสติน 1 ตัว เครื่องเจียร์ไฟฟ้าดัดแปลงเป็นเลื่อยไฟฟ้าอีก 1 ชุด เครื่องปั่นไฟ 1 ชุด แกลลอนน้ำมัน

สำหรับผู้ต้องหาที่จับกุมได้ในที่เกิดเหตุ สามารถจับกุมได้ 4 คน ประกอบด้วย 1.นายทรัพย์ แสงสี อายุ 52 ปี บ้านเลขที่ 23 ม.3 ต.บ้านพร้าว อ.นครไทย จ.พิษณุโลก 2.นายชม ขุนขำ อายุ 65 ปี บ้านเลขที่ 185 ม.3 ต.บ้านพร้าว อ.นครไทย จ.พิษณุโลก 3.นายสมควร พิณเพชร อายุ 51 ปี ม.1 ต.นครไทย อ.นครไทย จ.พิษณุโลก 4.นายแฉล้ม ปั้นคุ้ย อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 208 ม.3 ต.บ้านพร้าว อ.นครไทย จ.พิษณุโลก และหลบหนีการจับกุมไป 2 คน ทราบชื่อ นายประยูร อันทะปัญญา อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 331 ม.1 ต.เนินเพิ่ม อ.นครไทย จ.พิษณุโลก และนายบุญชู จันทร์วิสุทธิ์ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 128 ม.17 ต.เนินเพิ่ม อ.นครไทย จ.พิษณุโลก

การจับกุมกระบวนการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าครั้งนี้ ชุดเฉพาะกิจฯได้สืบทราบจากสายข่าวว่า มีนายทุนจากต.เนินเพิ่ม อ.นครไทย จ.พิษณุโลก เข้ามาในพื้นที่ม.26 บ้านโป่งดินดำ ต.หนองกะท้าว อ.นครไทย และมาลักลอบตัดต้นมะค่าโมงยักษ์ ที่ต้นใหญ่ที่สุดในพื้นที่นี้ อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขากระยาง เวลาประมาณ 02.00น.ของวันที่ 1 กรกฏาคม 2553 นายบุญเลิศ แก้วสะแสน ปลัดอำเภอชาติตระการ นายสุธี ชำนาญกิจ ปลัดอำเภอชาติตระการ นำอส.มาซุ่มจับแก๊งค์มอดไม้ บริเวณแยกหนองน้ำปอ ม.1 ต.ท่าสะแก อ.ชาติตระการ พบว่า มีรถบรรทุก 6 ล้อ อีซูซุสีขาว ขับออกมาจากบ้านโป่งดินดำ ด้านหลังบรรทุกไม้มะค่าโมง 3 ท่อน ความยาวประมาณ 3 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 เมตร จึงทำการจับกุม ได้ผู้ต้องหา 2 ราย คือ นายชัยนิวัฒน์ จันทร์มีเทพ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 100 ม.11 ต.เนินเพิ่ม อ.นครไทย จ.พิษณุโลก ( คนขับรถ ) และนายทองใหม่ อันทะปัญญา อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 331 ม.11 ต.เนินเพิ่ม อ.นครไทย จ.พิษณุโลก ทั้งสองรับว่า มาขนไม้ทะค่าโมง จากบ้านโป่งดินดำ เป็นไม้ของเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่ง จะนำไปส่งที่ต.เนินเพิ่ม อ.นครไทย จ.พิษณุโลก

ต่อมาเวลา 03.00 น.วันเดียวกัน นายเบญจรงค์ บุศรา ปลัดอำเภอนครไทย นายปรีชา แพร่โกสุมปรีชา เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาณงาน ชุดเฉพาะกิจโครงการป้องกันรักษาป่าอนุรักษ์ในพื้นที่ลุ่มน้ำแควน้อย นำอส.และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ และฝ่ายทหาร และฝ่ายความมั่นคง เดินป่าเข้ามายังจุดลักลอบตัดไม้ พบว่า คนงานตัดไม้ กำลังใช้รถลากไม้ดึงไม้มะค่าโมงที่ตัดเป็นท่อน ๆ จึงเข้าทำการตรวจค้นและจับกุม ได้ผู้ต้องหา 4 คน หลบหนีไป 2 คน และยังพบว่า จุดเกิดเหตุ มีรถตำรวจตราโลห์ จอดอยู่พร้อมเลื่อยยนต์ด้วย โดยพบพ.ต.ท.วิชาญ ปานทอง รองผกก.สภ.นครไทย และดต.พร ก๊กพงษ์ ตำรวจสภ.นครไทย ทั้งสองอ้างว่า เข้ามาจับกุมขบวนการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า ขณะที่แนวทางการสืบสวนชุดจับกุมนั้น เนื่องจากผู้ต้องหาที่ขนไม้ออกไป 2 คนแรกนั้น ให้การซัดทอดว่าไม้เป็นของนายตำรวจ จึงต้องดำเนินคดีกับตำรวจทั้งสองนายด้วย

นายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเมื่อคืนที่ผ่านมาแล้ว จึงต้องเดินทางมาในพื้นที่ด้วยตนเอง ที่ผ่านมา ได้สั่งการให้ชุดเฉพาะกิจออกตรวจตราและจับกุมขบวนการตัดไม้ทำลายป่าอย่างต่อเนื่อง ครั้งนี้ได้ของกลางและอุปกรณ์การกระทำผิดด้วย การที่มีรถตราโล่ของตำรวจ และมีนายตำรวจระดับสูงของสภ.นครไทย อยู่ในที่เกิดเหตุ พร้อมของกลางเลื่อยยนต์ด้วยนั้น ให้ดำเนินการไปตามกติกาของชุดเฉพาะกิจป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่าอย่างเข้มงวด ตนได้แจ้งให้ผบภ.จว.พิษณุโลกและผบช.ภ.6รับทราบแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงที่นายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ได้เดินตรวจของกลาง และตอไม้ที่ถูกโค่นนั้น พ.ต.ท.วิชาญ ( ภพณครินทร์ ชื่อใหม่ ) ปานทอง รองผกก( ปป.).สภ.นครไทย ภ.จว.พิษณุโลกได้เดินติดตามผู้ว่าฯตลอด และรายงานผู้ว่าฯพิษณุโลกว่า ได้รับรายงานจากสายว่ามีการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า จึงนำเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ และพบผู้ต้องหากับของกลาง จึงทำการควบคุม พร้อมของอุปกรณ์เลื่อยยนต์ไว้บนรถยนต์ตำรวจ และได้โทรศัพท์รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ระหว่างนั้นก็มีชุดเฉพาะกิจของป่าไม้เข้ามาในพื้นที่ ซึ่งผู้ว่าฯพิษณุโลกได้บอกกับรองผกก.สภ.นครไทยว่า ให้ดำเนินไปตามกติกา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น